เมนู

2. อุณณาภพราหมณสูตร



อินทรีย์ 5 มีอารมณ์ต่างกัน



[966] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น อุณณาภพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้-
มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้
ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
[967] ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อินทรีย์ 5 ประการนี้ มีอารมณ์
ต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน อินทรีย์ 5
ประการเป็นไฉน คือ จักขุนทรีย์ 1 โสตินทรีย์ 1 ฆานินทรีย์ 1 ชิวหินทรีย์ 1
กายินทรีย์ 1 อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของอินทรีย์ 5 ประการนี้ ซึ่งมีอารมณ์
ต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน และอะไร
ย่อมเสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของอินทรีย์ 5 ประการนี้.
[968] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ อินทรีย์ 5
ประการนี้ มีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจร
ของกันและกัน อินทรีย์ 5 ประการเป็นไฉน คือ จักขุนทรีย์ 1 โสตินทรีย์ 1
ฆานินทรีย์ 1 ชิวหินทรีย์ 1 กายินทรีย์ 1 ใจเป็นที่ยึดเหนี่ยวของอินทรีย์ 5
ประการนี้ ซึ่งมีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจร
ของกันและกัน และใจย่อมเสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของอินทรีย์ 5 ประการนี้.
[969] อุ. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวแห่งใจเล่า.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ สติเป็นที่ยึดเหนี่ยวแห่งใจ.
[970] อุ. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวแห่งสติเล่า.